พาลูกเที่ยวปิดเทอมที่ไหนดี เรามีแนะนำ เป็นทั้งที่เที่ยวในกรุงเทพฯ และที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งเหมาะแก่การเที่ยวแบบครอบครัว มีหลากหลายแบบให้เลือก เด็ก ๆ ได้สนุกสนานเต็มที่ และมีความรู้กลับบ้าน
พอถึงเวลาที่เด็ก ๆ ปิดเทอม ก็ไม่อยากให้พวกเขานั่งดูทีวี เล่นเกมส์อยู่กับบ้านเฉย ๆ ใช่ไหมคะ แบบนี้ต้องพาออกไปหาประสบการณ์ใหม่กันหน่อย วันนี้เราเลยไปคัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับเด็ก ๆ มาฝากกัน บางสถานที่ก็แฝงไปด้วยคววามรู้อีกต่างหาก ได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้กลับบ้านแบบนี้ แฮปปี้ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และลูก ๆ แน่นอน จะมีที่เที่ยวปิดเทอมที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันค่ะ
1. หุบเขาไดโนเสาร์ สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี
รับรองว่าทั้งเด็ก ๆ และคุณพ่อ คุณแม่จะต้องกรี๊ดกับหุบเขาไดโนเสาร์อย่างแน่นอน ด้วยบนพื้นที่กว่า 25 ไร่ ภายในสวนนงนุชพัทยาแห่งนี้ ได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นอาณาจักรของไดโนเสาร์ และยังปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เหมือนกับป่าดึกดำบรรพ์ ราวกับได้ย้อนเวลาไปในยุคนั้นเลยล่ะ ในหุบเขาไดโนเสาร์นี้ มีรูปปั้นไดโนเสาร์มากมาย รวมกว่า 400 ตัว มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ สามารถถ่ายรูปเซลฟี่ได้อย่างใกล้ชิด และทางสวนนงนุชก็ได้มอบโอกาสพิเศษให้กับน้อง ๆ หนู ๆ ที่ตัวสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตรได้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ราคาบัตรเข้าชม : บัตรผ่านประตูอย่างเดียวสำหรับคนไทยเริ่มต้น 150 บาท เด็ก (สูง 90-130 เซนติเมตร) 80 บาท
ที่ตั้ง : 34/1 หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3823 8061-63, 08 7488 0028, 06 1647 7088
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : nongnoochtropicalgarden.com, เฟซบุ๊ก สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
2. สยามเซอร์เพนทาเรียม กรุงเทพฯ
ปิดเทอมนี้พาเด็ก ๆ ไปสนุกสนานกับการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานสุดน่ารักอย่างงูหลากหลายชนิดที่สยามเซอร์เพนทาเรียม กรุงเทพฯ พิพิธภัณฑ์งูที่จะทำให้คุณรู้จักกับงูทั่วโลก จัดแสดงงูชนิดต่าง ๆ กว่า 70 สายพันธุ์อย่างน่าสนใจในรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่การเกิด การเอาตัวรอด วิธีการล่า ตลอดจนการสืบพันธุ์ สนุกสนานไปกับการรู้จักอวัยวะทุกส่วนของงูผ่านอุโมงค์รูปปั้นงูตัวใหญ่ยักษ์ พร้อมลุ้นระทึกไปกับการแสดงโชว์งูและการแสดงเดี่ยวกับตำนานของงูผ่านแสง สี เสียง ตระการตา ที่นี่เปิดให้เเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
ราคาบัตรเข้าชม : ราคาบัตรเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก (สูงระหว่าง 90-135 เซนติเมตร) 150 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 550 บาท เด็ก 250 บาท
ที่ตั้ง : ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2326 5800
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : siamserpentarium.com, เฟซบุ๊ก Siam Serpentarium “สยาม เซอร์เพนทาเรียม”
3. สวนสัตว์ดุสิต (Dusit Zoo) กรุงเทพฯ
ปิดเทอมนี้อยากให้ลองพาเด็ก ๆ ไปทิ้งทวนกับสวนสัตว์เก่าแก่ของเมืองไทยอย่างสวนสัตว์ดุสิตกันค่ะ ด้วยใกล้ถึงเวลาที่จะย้ายสวนสัตว์แห่งนี้ไปอยู่ในที่ใหม่ที่ใหญ่และดีกว่าเดิมแล้ว สวนสัตว์ดุสิตเปิดให้บริการมา 80 ปี เดิมเรียกที่นี่ว่า เขาดินวนา เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามมากขึ้น และเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยวพักผ่อน จนกระทั่งสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานสวนดุสิต ให้ดำเนินการจัดทำเป็นสวนสาธารณะ และเป็นที่พักผ่อน หย่อนใจของประชาชน จากนั้นทางเทศบาลนครกรุงเทพ ได้จัดการย้ายกวางดาว และสัตว์ชนิดต่างๆ มาจากสวนอัมพร และมีการนำสัตว์อื่น ๆ มาไว้ที่นี่ จนกลายมาเป็นสวนสัตว์ดุสิตอย่างในปัจจุบัน
ภายในสวนสัตว์ดุสิต มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ฮิปโปโปเตมัส แม่มะลิ, หลุมหลบภัยสาธารณะ, ลูกไนอาล่าเกิดใหม่, การแสดงแมวน้ำ, ยีราฟสูงและฝูงม้าลาย, เพนกวิน, หมู่บ้านช้าง, โคอาลา เป็นต้น และต้องไม่พลาดกับการปั่นเรือจักรยานนาวากลางสระน้ำกว้างใหญ่ บรรยากาศสุดชิล
ราคาบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 20 บาท
ที่ตั้ง : 71 ถนนพระราม 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2281 2000
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dusit.zoothailand.org, สวนสัตว์ดุสิต Dusit Zoo
4. ไร่ปลูกรัก จังหวัดราชบุรี
ลองพาเด็ก ๆ ไปหาประสบการณ์แบบใหม่ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบเกษตรพอเพียงอย่างแท้จริง กับไร่ปลูกรัก จังหวัดราชบุรี ไร่ปลูกรักเป็นฟาร์มออร์แกนิกส์ ที่ทำการเกษตรแบบผสมผสาน มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าเที่ยวชมทุกวัน และยังมีการจัดโปรแกรมสำหรับเด็ก ๆ จัดทำเป็นฐานต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับการเกษตรและวิถีชีวิตแบบไทย อาทิ ฐานเก็บไข่เป็ดมาทำเป็นไข่เค็ม, ฐานเลี้ยงเป็ดในนาข้าวอินทรีย์, ฐานทำหุ่นฟางและของเล่นไทย, ฐานสไลด์เดอร์ริมนา, ฐานทำว่าวกระบอก, ฐานปลูกผัก เป็นต้น
ราคาบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 200 บาท
ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 08 6332 7365
เฟซบุ๊ก : ไร่ปลูกรัก RAI PLUK RAK Thai Organic Farmer
5. สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน จังหวัดชลบุรี
อากาศมันร้อน ต้องชวนเด็ก ๆ ไปคลายร้อนแบบมัน ๆ กันหน่อยค่ะ ที่สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน ซึ่งเป็นสวนน้ำธีมการ์ตูนเน็ทเวิร์คแห่งแรกของโลก และยังมีเครื่องเล่นมากมาย แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ กว่า 10 โซน แต่ละโซนจะมีเครื่องเล่นแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะโซน Cartoonival อันเป็นโซนสำหรับเด็กนั้น ก็มีเครื่องเล่นมากกว่า 150 ชิ้น สนุกสนานในแบบฉบับเปียกชุ่มฉ่ำ ฟินทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และลูก ๆ อย่างแน่นอน
ราคาบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,290 บาท เด็ก 990 บาท
ที่ตั้ง : 888 หมู่ 8 ถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3300 4999
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : cartoonnetworkamazone.com, Cartoon Network Amazone
6. หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดฉะเชิงเทรา
เปลี่ยนบรรยากาศจากการไปดูดาวที่ท้องฟ้าจำลอง มาลองเที่ยวที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดฉะเชิงเทรา กันบ้าง ที่นี่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ทั้งหมด 36 ไร่ มีอาคารหอดูดาวและอาคารฉายดาวตั้งอยู่ตรงกลางอย่างโดดเด่น โดยรอบเป็นลานดูดาว สระน้ำ และสวนสีเขียวที่มีต้นไม้น้อยใหญ่สุดร่มรื่น บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะแก่การมาเที่ยวชมในวันหยุดกับครอบครัว ภายในหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา ประกอบไปด้วยอาคารหอดูดาว, อาคารท้องฟ้าจำลอง, ลานดูดาว และสวนพฤกษศาสตร์หอดูดาว สิ่งที่น่าสนใจ อาทิ การชมนิทรรศการดาราศาสตร์แบบ Interactive 14 โซน, การเรียนรู้วงโคจรระบบสุริยะกับ Planet Walk รอบอาคาร, ดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์, ภาพวาดดาราศาสตร์ยาวกว่า 100 เมตร รอบกำแพงลานดูดาว, สโตนเฮนจ์จำลอง และนาฬิกาแดด, ท้องฟ้าจำลอง เป็นต้น
ราคาบัตรเข้าชม : บุคคลทั่วไป 50 บาท นักเรียน/นักศึกษา 30 บาท
ที่ตั้ง : 999 หมู่ที่ 3 ตำบลวังเย็น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เปิดเวลา 09.00-16.00 น. (วันเสาร์ เปิดเวลา 09.00-22.00 น.)
โทรศัพท์ : 0 3858 9396, 08 4088 2264
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : narit.or.th, หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา
7. มินิ มูร่าห์ ฟาร์ม
มินิ มูร่าห์ ฟาร์ม ฟาร์มควายนมเชิงท่องเที่ยวแห่งเดียวในเมืองไทย โดยเลี้ยงควายนมพันธุ์มูร่าห์เป็นหลัก นอกจากจะทำฟาร์มควายนมเพื่อจำหน่ายนมควายแล้ว ก็ยังเปิดให้แหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของควายด้วย มีการจัดตกแต่งพื้นที่ให้เหมือนกับฟาร์มในชนบทของยุโรป บรรยากาศชิล ๆ อากาศเย็นสบาย มีกิจกรรมให้ได้ผ่อนคลายหลายแบบ อาทิ การเรียนรู้ประวัติมินิมูร่าห์ฟาร์ม, การเยี่ยมชมแปลงปลูกผักเพื่อเลี้ยงสัตว์, แปลงเกษตรอินทรีย์, ดูกระบวนการรีดนม เป็นต้น และที่สำคัญทางฟาร์มยังมีเวิร์กช็อปสำหรับคุณหนู ๆ หลากหลายกิจกรรม เช่น การทำพิซซ่า, การทำไอศกรีม และการป้อนอาหารสัตว์ในมินิสวนสัตว์
ราคาบัตรเข้าชม : บัตรเข้าชม 40 บาท ราคาเวิร์กช็อปเริ่มต้น 250 บาท
ที่ตั้ง : ตำบลสิบเอ็ดศอก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด นักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1819 2819
เฟซบุ๊ก : Mini Murrah Farm
8. ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet)
ไปทิ้งทวนกับอาณาจักรไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะปิดถาวรในวันที่ 20 เมษายน 2561 กับไดโนซอร์ แพลนเน็ต สวนสนุกในธีมไดโนเสาร์ เนรมิตพื้นที่ทั้งหมดให้มีบรรยากาศแบบโลกยุคดึกดำบรรพ์ รายล้อมไปด้วยไดโนเสาร์น้อยใหญ่สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอที่ตื่นตาตื่นใจ ด้วยเทคนิคอันสมัย พร้อมกับกิจกรรมและการแสดงโชว์สุดอลังการระดับโลก โซนที่น่าสนใจ อาทิ Dinosaur Distric, Stars of Dino, Dino Eye, 4D Deep-World, The Great Volcano & The Extinction Live Show, Raptor X-Tream, Dino Fram, 7D Amazing Park เป็นต้น
ราคาบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 510 บาท เด็ก 340 บาท
ที่ตั้ง : สุขุมวิท 22 ดิ เอ็มสเปียร์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
โทรศัพท์ : 06 3167 6975, 06 3162 5830
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinosaurplanet.net, Dinosaur Planet
9. Flight Experience Bangkok กรุงเทพฯ
เติมความฝันของการเป็นนักบินให้กับลูกน้อยด้วย Flight Experience Bangkok โปรแกรมเรียนรู้การเป็นนักบิน และสอนทักษะการบินเบื้องต้น เพียงแค่ 1 วัน ก็สามารถฝึกหัดขับเครื่องบินได้แล้ว ในโปรแกรมจะมีการแนะนำเส้นทางสู่การเป็นนักบิน มีการเล่นเกมส์พัฒนา EQ และ IQ พาชมโต๊ะสนามบินจำลอง ถาม-ตอบปัญหา และแนะนำอุปกรณ์การบินภายในห้องนักบิน (Cockpit) เสมือนจริง จนขั้นตอนสุดท้ายคือการทำการบินในห้องจำลองการบิน Boeing 737-800NG เรียกได้ว่าเป็นการสานฝันของเด็ก ๆ อย่างแท้จริงเลยล่ะ
ราคา : คอร์ส 1 วัน เริ่มต้น 3,500 บาท
ที่ตั้ง : เกตเวย์เอกมัย ชั้น 2
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2048 9922-23, 09 2529 4616
เฟซบุ๊ก : SkyVenture – Flight Experience
10. พัทยา ดอลฟิน เวิลด์ จังหวัดชลบุรี
พัทยา ดอลฟิน เวิลด์ สถานที่แสดงโชว์โลมาแห่งเดียวในพัทยา พบกับการโชว์โลมาที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้นของโลมาหัวบาตร ที่ทั้งฉลากและแสนรู้ และยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับโลมาอย่างใกล้ชิด ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถลงไปว่ายน้ำกับโลมาได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ปีนหน้าผาจำลอง, ขับรถเอทีวี, ชมการแสดงหมู่บ้านชนเผ่า, กิจกรรมสนามยิงปืน, กิจกรรมขี่ม้าและนั่งรถม้า เป็นต้น
ราคาบัตรเข้าชม : สอบถามได้โดยตรงกับทางพัทยา ดอลฟิน เวิลด์
ที่ตั้ง : 44/8 หมู่ 9 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.
โทรศัพท์ : 08 4653 7676, 08 0567 0376, 0 3805 1790-6
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pattayadolphins-world.com, Pattaya Dolphin World
คุณพ่อ คุณแม่ ที่อยากจะพาลูกน้อยไปเที่ยวในช่วงปิดเทอมนี้ ก็ลองเลือกสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเด็ก ๆ เหล่านี้กันดูนะคะ อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ไปแบบเช้าไป-เย็นกลับได้สบาย ๆ อีกด้วย 🙂
ขอบคุณทีมงาน
เที่ยวไปกินไป.com
kapook.com
nongnoochtropicalgarden.com, dusit.zoothailand.org, siamserpentarium.com, narit.or.th, Mini Murrah Farm, pattayadolphins-world.com, SkyVenture – Flight Experience, dinosaurplanet.net